ความสอดคล้องกับ 11 มาตรฐานตามครุสภา

การพัฒนารูปแบบการสอนวิทยาศสตร์


ข้อ 1.การพัฒนารูปแบบการสอนวิทยาศาสตร์คืออะไร มีความจำเป็นหรือไม่อย่างไรที่จะต้องพัฒนารูปแบบการสอนดังกล่าวนี้ ความจำเป็นในการพัฒนา
1. เนื่องจากระบบการศึกษาไทยมีการพัฒนาเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด จึงจำเป็นต้องมีการพัฒนารูปแบบการสอนให้สอนคล้องกับการศึกษาในปัจจุบัน
2. เพื่อให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ สามารถสร้างองค์ความรู้ได้ด้วยตนเอง ทำให้เกิดทักษะในการคิดวิเคราะห์ และคิดแก้ปัญหาได้ด้วย
3. เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่องนั้นๆ และเลือกการเรียนรู้ให้เหมาะสมทำให้เกิดการเรียนรู้อย่างมีศักยภาพการพัฒนาผู้สอนและผู้เรียน
ด้านผู้สอน เเละผู้เรียน
1. ความรู้ ช่วยให้ผู้เรียนเกิดความรู้ความเข้าใจในเนื้อหาสาระ เช่น การเลือกกิจกรรมเทคนิคและรูปแบบในการสอน ให้ผู้เรียนเรียนรู้ด้วยตนเอง รู้จักแสวงหาความรู้จากแหล่งต่างๆ ที่มีอยู่ด้วยตนเอง
2. ทักษะ
 - ทักษะในการสื่อสาร
 ทักษะในการตั้งคำถาม
การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ใหม่อย่างสม่ำเสมอ
การคิดวิเคราะห์และการแก้ปัญห
การเลือกกลวิธีในการเรียนรู้
3. เจตคติ 
มีจิตวิญญาณความเป็นครู
แสวงหาความรู้ใหม่อย่างสม่ำเสมอ 
ใฝ่รู้ใฝ่เรียน
กล้าแสดงออก
รับฟังความคิดเห็นของผู้อื่นการพัฒนารูปแบการสอนวิทยาศาสตร์
การดำเนินการศึกษาและพัฒนาแผนการเรียนการสอนโดยใช้วิธีบูรณาการองค์ความรู้ที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน แล้วนำเสนอเป็นขั้นตอนของการจัดการเรียนการสอน-ในการจัดการเรียนการสอนต้องเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ มีการกระตุ้นความสนใจผู้เรียนเกิดความอยากรู้อยากเรียนมีกระบวนการคิดแก้ปัญหา สามารถสร้างองค์ความรู้ได้ด้วยตนเอง โดยมี ขั้นตอน ดังนี้
1. การสร้างองค์ความรู้
 2. การจัดและเก็บ 
3. การถ่ายทอดความรู้ 
4. การนำความรู้ไปใช้ 
5. การประเมิน

ข้อ 2. จงวิเคราะห์สภาพการจัดการเรียนการสอน วิชาวิทยาศาสตร์ในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน มีประเด็นใดบ้างที่ควรนำมาเป็นปัญหาเร่งด่วนที่จะต้องวิจัยเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษา
การเรียนการสอนที่เคยจำกัดเฉพาะในห้องเรียน การที่นักเรียนเรียนเฉพาะในห้องเรียนไม่ได้ทำให้เกิดประโยชน์ในการเรียนรู้ที่แท้จริงเพราะปัจจุบันองค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์มีอยู่นอกห้องเรียนมากมาย ดังนั้นการเรียนการสอนจะต้องขยายออกจากออกเรียนเพราะการเรียนเพียงในห้องไม่ได้ทำให้เกิดประโยชน์ที่แท้จริงค่ะ
การพัฒนาครู ครูไม่ควรจะทำหน้าที่เป็นเพียงผู้สอนเท่านั้นแต่จะต้องเรียนไปพร้อมกับนักเรียนด้วย เนื่องจากปัจจุบันโลกก้าวไปอย่างรวดเร็ว เทคโนโลยีก็ยิ่งไปได้เร็ว ดังนั้นครูจะต้องตามความเปลี่ยนแปลงให้ทัน ซึ่งครูอาจจะต้องเรียนรู้ให้มากกว่านักเรียนเพื่อจะสามารถเรียนรู้ในโลกของความเป็นจริง
มีการปฏิรูปเรื่องของการวัดผล จะต้องวัดผลจากผลการเรียนที่แท้จริงที่เด็กจะนำไปใช้ได้การวัดจะต้องวัดจากความคิด รู้จักคิดเป็น แก้ปัญหาเป็น โดยจะต้องไม่เป็นเพียงการวัดผลจากการให้เลือกจากคำตอบ ถูกหรือผิด แต่จะต้องเป็นการวัดผลอยู่บนฐานที่ทำให้นักเรียนสามารถใช้ความคิด มีกระบวนการทางการคิดที่เป็นระบบ
ข้อ 3. หลักการ แนวคิด ทฤษฎี ที่นำมาใช้การจัดการเรียนการสอนในชั้นเรียนปัจจุบันมีความเป็นไปได้เพียงใด ในการจัดการศึกษา 3.0 และเมื่อรัฐบาลประกาศจัดการศึกษา 4.0 จะมีความเป็นไปได้หรือไม่อย่างไร
บทบาทของเทคโนโลยี การสร้างองค์ความรู้จากเทคโนโลยี เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงไปตามผู้เรียนบทบาทด้านการสอน ครูและนักเรียนสร้างองค์ความรู้ร่วมกัน ขยายองค์ความรู้ด้วยการให้วงจรผลสะท้อนกลับจากการสร้างนวัตกรรมเมื่อรัฐบาลประกาศยกระดับการจัดการศึกษาจาก 3.0 เป็น 4.0 มีความเป็นไปได้ที่จะนำมาใช้ในการจัดการเรียนการสอน เนื่องจากปัจจุบันมีการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการศึกษาและยังสามารถนำความรู้ด้านเทคโนโลยีมาสร้างเป็นนวัตกรรมและทำให้เกิดเป็นองค์ความรู้ใหม่ๆการที่จะเปลี่ยนแปลงการจัดการศึกษาจาก 3.0 เป็น 4.0 ต้องมีการร่วมมือกันทั้งภาครัฐ เอกชน และหน่วยงานอื่นๆ และสิ่งที่สำคัญคือครูและผู้เรียนจะต้องร่วมมือกันในการขับเคลื่อนเพื่อให้การจัดการศึกษา 4.0 ประสบผลสำเร็จ 

 ข้อ 4. นักศึกษามีความคิดเห็นต่อการเรียน รายวิชา 1042404 การพัฒนารูปแบบการสอนวิทยาศาสตร์ อย่างไรบ้าง  มีความคาดหวังต่อการเรียนรู้รายวิชาดังกล่าวนี้เพื่อที่จะนำไปใช้ในอาชีพครูที่มีคุณภาพตามมาตรฐานวิชาชีพครู(ตามที่คุรุสภากำหนด)โดยสรุป 
- นักศึกษามีความคิดเห็นต่อการเรียน รายวิชา 1042404 การพัฒนารูปแบบการสอนวิทยาศาสตร์  อย่างไรบ้างสำหรับในรายวิชาการพัฒนารูปแบบการสอนวิทยาศาสตร์ มีความคิดเห็นว่าในการเรียนวิชานี้ทำให้ได้รับความรู้ความเข้าใจ ในธรรมชาติของมนุษย์และการพัฒนาเทคโนโลยีต่างๆที่มนุษย์สร้างขึ้น และสามารถนำความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ในด้านการศึกษา ช่วยทำให้เราพัฒนาวิธีคิดทั้งความคิดที่เป็นเหตุเป็นผล คิดอย่างสร้างสรรค์ และมีทักษะในการค้นหาความรู้ใหม่ๆ  มีความคาดหวังที่จะได้เทคนิคการสอนและรูปแบบการสอนวิทยาศาสตร์ต่างๆไปใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนเพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์มากที่สุดมีความคาดหวังต่อการเรียนรู้รายวิชาดังกล่าวนี้เพื่อที่จะนำไปใช้ในอาชีพครูที่มีคุณภาพตามมาตรฐานวิชาชีพครู(ตามที่คุรุสภากำหนด)
เพื่อพัฒนาแผนการสอนให้สามารถปฏิบัติได้เพื่อให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ที่แท้จริงซึ่งตรงกับมาตรฐานวิชาชีครูมาตรฐานที่ ที่ว่าการจัดการเรียนรู้และการจัดการชั้นเรียน
เพื่อพัฒนาสื่อการเรียนการสอนให้มีประสิทธิภาพอยู่เสมอ ซึ่งตรงกับมาตรฐานวิชาชีครูมาตรฐานที่ ที่ว่าการจัดการเรียนรู้และการจัดการชั้นเรียน
สามารถจัดกิจกรรมการเรียนการสอนโดยเน้นให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ที่ถาวร ซึ่งตรงกับมาตรฐานวิชาชีครูมาตรฐานที่ ที่ว่าการจัดการเรียนรู้และการจัดการชั้นเรียน
ทำให้รูปแบบการเรียนการสอนในรายวิชาวิทยาศาสตร์ให้บรรลุตามจุดมุ่งหมายของครูผู้สอน ซึ่งตรงกับมาตรฐานวิชาชีครูมาตรฐานที่ที่ว่าการจัดการเรียนรู้และการจัดการชั้นเรียน
เพื่อที่จะทำให้มีการแสวงหาและการใช้ข้อมูลข่าวสาร ในการพัฒนาและนำมาประยุกต์กับทางการศึกษา สร้างโอกาสให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ในทุกสถานการณ์ ซึ่งตรงกับมาตรฐานวิชาชีครูมาตรฐานที่ ที่ว่า นวัตกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศทางการศึกษา
สามารถรายงานผลการพัฒนาคุณภาพของผู้เรียนได้อย่างมีระบบ ซึ่งตรงกับมาตรฐานวิชาชีครูมาตรฐานที่ ที่ว่าการวัดและการประเมินผลการเรียนรู้ข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยมาตรฐานวิชาชีพ พ.ศ. 2556 คุรุสภาได้ออกข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยมาตรฐานวิชาชีพ พ.ศ. 2556 ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2556 มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป 
โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้เปลี่ยนมาตรฐานวิชาชีพครู ด้านมาตรฐานความรู้ จาก 9 มาตรฐาน เป็น 11 มาตรฐาน ดังนี้ 
1) ความเป็นครู 
2) ปรัชญาการศึกษา 
3) ภาษาและวัฒนธรรม  
4) จิตวิทยาสำหรับครู  
5) หลักสูตร 
6) การจัดการเรียนรู้และการจัดการชั้นเรียน 
7) การวิจัยเพื่อพัฒนาการเรียนรู้ 
8) นวัตกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศทางการศึกษา 
9) การวัดและการประเมินผลการเรียนรู้ 
10) การประกันคุณภาพการศึกษา
11) คุณธรรม จริยธรรมและจรรยาบรรณ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น